ข้อกำหนดและเงื่อนไขการขาย
หลักเกณฑ์การส่งมอบและการจำหน่ายสินค้า
1. การใช้บังคับหลักเกณฑ์
1.1 หลักเกณฑ์นี้ให้นำมาใช้บังคับกับทุกคำสั่งซื้อจากผู้ซื้อสำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบ๊อช (“ผู้ซื้อ”) ในกรณีที่หลักเกณฑ์นี้และคำสั่งซื้อขัดหรือแย้งกัน ให้นำหลักเกณฑ์นี้มาใช้เป็นหลักเฉพาะสำหรับส่วนที่ขัดหรือแย้งกันนั้นเท่านั้น หลักเกณฑ์อื่น ๆ (ซึ่งรวมถึง หลักเกณฑ์ใด ๆ ตามคำสั่งซื้อหรือใบเรียกเก็บเงินของผู้ซื้อ หรือในเอกสารอื่นที่ผู้ซื้อได้จัดทำหรือออก) จะไม่มีผลผูกพันต่อบ๊อช เว้นแต่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร
1.2 คำสั่งจำหน่าย ใบเสนอราคา และใบประมาณการราคาที่บ๊อชได้มอบให้ (ซึ่งต่อไปอาจจะเรียกว่า “เรา” หรือ “ของเรา”) อาจมีการเปลี่ยนแปลง และให้มีผลสมบูรณ์ใช้ได้ตามกฎหมายสูงสุดไม่เกิน 30 วันนับจากวันที่ในใบเสนอราคา หรือใบประมาณการนั้น แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะระบุเป็นประการอื่นและทำเป็นลายลักษณ์อักษร
1.3 คำสั่งซื้อ หลังจากได้รับแล้ว จะไม่สามารถยกเลิกหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบ๊อชก่อน บ๊อชขอสงวนสิทธิในการแก้ไขข้อผิดพลาดหรือรายการผิดตกที่มีความสำคัญไม่ว่าโดยประการใดในใบเสนอราคา คำสั่งจำหน่าย ใบยืนยันการสั่งซื้อ หรือใบเรียกเก็บเงินของบ๊อช นอกจากนี้ บ๊อชขอสงวนสิทธิในการกำหนดยอดของปริมาณผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อสามารถซื้อได้ ณ เวลาใด ๆ ได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ซื้อทราบก่อน
1.4 การจัดหาผลิตภัณฑ์หรือให้บริการโดยบ๊อชไม่ทำให้บ๊อชมีข้อผูกพันใด ๆ ว่าจะต้องจัดหาผลิตภัณฑ์หรือให้บริการโดยต่อเนื่องต่อไป หรือ ณ เวลาใด ๆ ต่อไปในอนาคต
2. การกำหนดราคา
2.1 บ๊อชขอสงวนสิทธิในการแก้ไขราคาของผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ได้ตลอดเวลาโดยจะแจ้งให้ผู้ซื้อทราบก่อน
2.2 ในกรณีที่จะต้องเสียภาษี อากร หรือรายการอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน บ๊อชขอสงวนสิทธิในการแก้ไขจำนวนเงินตามที่เสนอ โดยไม่คำนึงว่า บ๊อชได้รับคำสั่งซื้อแล้วหรือไม่ ตราบใดที่บ๊อชยังไม่ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการ
2.3 จำนวนเงินที่บ๊อชเสนอในแต่ละคราวจะไม่รวมภาษี อากร หรือรายการอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ตามที่บ๊อชสามารถคิดคำนวณได้ เว้นแต่จะกำหนดเป็นประการอื่น จำนวนเงินที่ผู้ซื้อต้องชำระให้แก่บ๊อชสำหรับการจัดจำหน่ายใดๆ ที่จะต้องเสียภาษีจะรวมภาษี อากร หรือรายการอื่น ๆ ที่คล้ายกันแล้ว
2.4 เว้นแต่จะระบุเป็นประการอื่นในคำสั่งจำหน่าย ราคาที่เสนอสำหรับการส่งออกจะเป็นราคา FOB ประเทศไทย (FOB Thailand) และจะไม่รวมค่าระวาง ค่าประกันภัย หรือภาษีนำเข้าในประเทศปลายทาง หรือการส่งมอบ ณ ประเทศปลายทาง โดยให้อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ซื้อทั้งหมดเพียงผู้เดียว
3. ข้อกำหนดในการชำระเงิน
3.1 ยกเว้นตามที่ได้ตกลงกันเป็นประการอื่นและทำเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ซื้อจะต้องชำระเงินภายใน 30 วันนับจากวันที่ในใบเรียกเก็บเงิน โดยไม่มีรายการหักใด ๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม บ๊อชอาจส่งมอบสินค้าต่อเมื่อได้รับการชำระเงินในเวลาเดียวกัน (เช่น บริการเก็บเงินปลายทาง หรือบริการหักเงินจากบัญชีธนาคารโดยตรง) หรือการชำระเงินก่อนส่งมอบก็ได้
3.2 บ๊อชมีสิทธิหักลบกลบหนี้จำนวนเงินที่ชำระกับจำนวนเงินที่เรียกร้องที่ครบกำหนดชำระตามที่เรียกร้องก่อนหน้านี้
3.3 ในกรณีที่ผู้ซื้อชำระเงินล่าช้า บ๊อชมีสิทธิคิดดอกเบี้ยผิดนัดในอัตราร้อยละ 8 สำหรับจำนวนเงินที่ครบกำหนดชำระนั้น นอกจากนี้ บ๊อชมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นด้วย
3.4 การชำระเงินโดยตั๋วแลกเงินจะสามารถกระทำได้เฉพาะหลังจากได้ตกลงกับบ๊อชก่อนแล้วเท่านั้น บ๊อชยินดีรับตั๋วแลกเงินและเช็คที่ยังมีอายุสำหรับการชำระหนี้ และจะไม่ถือว่าได้รับการชำระเงินจนกว่าจะสามารถนำตั๋วแลกเงินหรือเช็คนั้นไปขึ้นเงินสำเร็จแล้ว
3.5 หากผู้ซื้อค้างชำระ บ๊อชจะมีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ซื้อชำระด้วยเงินสดโดยทันทีสำหรับเงินที่เรียกร้องอันเกิดจากการมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ครบกำหนด โดยข้อโต้แย้งสิทธินี้จะไม่สิ้นสุดลงเมื่อมีการผัดผ่อนการชำระเงินหรือเมื่อยอมรับตั๋วแลกเงินหรือเช็ค
3.6 ผู้ซื้อจะมีสิทธิยึดหน่วงการชำระเงิน หรือหักลบกลบหนี้กับจำนวนเงินที่เรียกร้องกลับ เฉพาะตราบเท่าที่การเรียกร้องกลับนั้นไม่ถูกโต้แย้ง หรือศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในเรื่องนี้แล้ว
4. การส่งสินค้า
4.1 หากผู้ซื้อไม่แจ้งให้บ๊อชทราบว่า ตนไม่ได้รับ หรือตนปฏิเสธที่จะรับหรือยอมรับการส่งมอบ ให้ถือว่าได้มีการส่งสินค้าในวันที่บ๊อชได้พยายามส่งมอบผลิตภัณฑ์นั้น ผู้ซื้อจะไม่อาจปฏิเสธการยอมรับได้แม้มีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยก็ตาม
4.2 บ๊อชขอสงวนสิทธิในการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพียงบางส่วนให้แก่ผู้ซื้อ
4.3 หากผู้ซื้อได้ร้องขอให้ส่งมอบผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด หลังจากบ๊อชได้แจ้งว่าผลิตภัณฑ์พร้อมสำหรับการส่งมอบ
บ๊อชอาจคิดค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดเก็บได้ตามที่เห็นสมควร
4.4 บ๊อชจะพยายามส่งมอบภายในเวลาที่กำหนด (หากระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร) อย่างไรก็ตาม หากว่าบ๊อชไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจาก:
(ก) ไม่สามารถได้รับวัสดุหรือชิ้นส่วนจากแหล่งที่บ๊อชให้ความเห็นชอบ
(ข) มีการประท้วง หรือการรวมตัวของคนงาน การขาดแคลนแรงงาน หรือการปิดโรงงาน
(ค) ความผิดใด ๆ ในส่วนของผู้ซื้อ หรือ
(ง) เหตุหรือสถานการณ์อื่นใดที่อยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมตามสมควรแก่เหตุของบ๊อช
บ๊อชอาจเลือกที่จะบอกเลิกสัญญาจัดจำหน่าย (“สัญญาจัดจำหน่าย”) หรือส่วนที่ค้างส่งมอบอยู่ หรือขยายเวลาออกไปตามเวลาที่สูญเสียไปเนื่องจากเหตุที่ขัดขวางหรือทำให้การส่งมอบนั้นต้องล่าช้าออกไป โดยบ๊อชจะไม่ต้องรับผิดสำหรับความล่าช้าในการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการ
4.5 ผู้ซื้อจะต้องส่งคืนบรรจุภัณฑ์ หีบห่อ และแท่นวางที่ใช้สำหรับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ หากผู้ซื้อไม่ส่งมอบคืนบรรจุภัณฑ์ หีบห่อ และแท่นวางดังกล่าวนั้น ผู้ซื้ออาจต้องชำระต้นทุนและค่าใช้จ่ายสำหรับรายการดังกล่าวนั้นให้แก่บ๊อช
5. ความเสี่ยง
5.1 เว้นแต่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงเป็นประการอื่นและทำเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ความเสี่ยงที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ตกเป็นของผู้ซื้อเมื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยตามเงื่อนไข FOB หรือในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ไม่ได้ส่งมอบตามเงื่อนไข FOB ให้ความเสียงที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ตกเป็นของผู้ซื้อ ณ เวลาที่ผู้ซื้อ หรือตัวแทนของผู้ซื้อ หรือผู้ขนส่งของผู้ซื้อได้ครอบครองทางกายภาพซึ่งผลิตภัณฑ์
5.2 เว้นแต่ผู้ซื้อจะพิสูจน์ได้ว่า ความสูญเสีย หรือความเสื่อมค่า หรือความเสียหายของผลิตภัณฑ์ได้เกิดขึ้นก่อนที่จะส่งผ่านความเสี่ยง บ๊อชจะไม่ต้องรับผิดสำหรับความสูญเสีย ความเสื่อมค่า หรือความเสียหายดังกล่าวนั้นแต่ประการใด
6. ทรัพย์สิน
6.1 บ๊อชมีกรรมสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบ จนกว่าผู้ซื้อจะได้ชำระเงินตามที่เรียกร้องทั้งหมดให้แล้วเสร็จ ตามที่บ๊อชมีสิทธิเรียกร้องตามความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีอยู่ในขณะนี้และในอนาคต
6.2 หากผู้ซื้อ:
(ก) ผิดนัดไม่ชำระจำนวนเงินใด ๆ ที่ครบกำหนดชำระให้แก่บ๊อช หรือ
(ข) เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ล้มละลาย กระทำการใด ๆ ที่เป็นเหตุให้มีการฟ้องล้มละลาย ตกลงกับเจ้าหนี้ หรือทำการประนอมหนี้ หรือทำสัญญาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ หรือ หากผู้รับจำนองเข้าครอบครองทรัพย์สินใด ๆ ของผู้ซื้อ หรือ
(ค) มีการแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีชั่วคราว ผู้ชำระบัญชี เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และผู้จัดการ หรือผู้จัดการอย่างเป็นทางการ ทรัสตีสำหรับเจ้าหนี้ หรือในกรณีล้มละลาย ผู้บริหารหรือบุคคลที่มีลักษณะคล้ายกันได้รับการแต่งตั้งสำหรับผู้ซื้อหรือทรัพย์สินของผู้ซื้อ หรือมีการยื่นคำร้องขอให้ผู้ซื้อเลิกกิจการ หรือหากผู้รับจำนองเข้าครอบครองทรัพย์สินใด ๆ ของผู้ซื้อ หรือ
(ง) ไม่สามารถชำระหนี้ของตนตามที่และเมื่อครบกำหนดชำระ
ให้จำนวนเงินทั้งหมดครบกำหนดและจะต้องชำระโดยทันที และผู้ซื้อ โดยไม่อาจเพิกถอนได้ ต้องอนุญาตให้บ๊อชเข้าไปภายในบริเวณสถานที่ซึ่งใช้สำหรับการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ และใช้ชื่อของผู้ซื้อ และกระทำการในนามของผู้ซื้อเพื่อให้สามารถเข้าครอบครองผลิตภัณฑ์ของบ๊อชได้ตามเดิม
6.3 ภายใต้บังคับแห่งข้อ 6.2 ผู้ซื้อได้รับอนุญาตให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์นั้น (“ผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์”) ในการประกอบธุรกิจตามปรกติของตน โดยบ๊อชอาจเพิกถอนการให้สิทธิได้ตลอดเวลา โดยคำบอกกล่าวจากบ๊อช หากบ๊อชเห็นว่าความน่าเชื่อถือของผู้ซื้อไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ หรือหากผู้ซื้อผิดนัดไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพันของตน หรือไม่ชำระหนี้ตามสัญญาจัดจำหน่าย หรือข้อตกลงอื่นใดที่ทำขึ้นระหว่างบ๊อชหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกันของบ๊อช (“บริษัทที่เกี่ยวข้องกันของบ๊อช”) และผู้ซื้อ ให้ถือว่าอำนาจดังกล่าวถูกเพิกถอนโดยอัตโนมัติ หากผู้ซื้อเข้าเกณฑ์ตามเงื่อนไขในข้อ 6.2
6.4 ผู้ซื้อจะต้องเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์แยกต่างหากจากส่วนอื่น และจะต้องระบุผลิตภัณฑ์ดังกล่าวว่าเป็นทรัพย์สินของบ๊อชโดยแจ้งชัด บ๊อช หลังจากเพิกถอนอำนาจของตนตามข้อ 6.3 หรือหลังจากเพิกถอนอำนาจโดยอัตโนมัติแล้ว ให้มีสิทธิ โดยไม่อาจเพิกถอนได้ ในการเข้าไปภายในบริเวณสถานที่สำหรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ และเข้าครอบครอง และเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ (หรือผลิตภัณฑ์ที่นำประกอบ) โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากการกระทำนั้น และบ๊อชอาจจำหน่ายต่อผลิตภัณฑ์บางส่วนหรือทั้งหมด และนำเงินที่ได้มาใช้สำหรับการชำระราคาผลิตภัณฑ์ หรือจำนวนเงินอื่น ๆ ทั้งหมดที่ผู้ซื้อเป็นหนี้บ๊อชอยู่ ผู้ซื้อจะต้องยังคงรับผิดต่อบ๊อชสำหรับราคาของผลิตภัณฑ์ที่มีความเสียหาย นำไปใช้ ยังประกอบไม่เสร็จสมบูรณ์ ที่แตกหัก หรือที่ล้าสมัย ตามที่บ๊อชเห็นว่าไม่มีคุณค่าเชิงพาณิชย์ หรือไม่สามารถจำหน่ายต่อได้ นอกจากนี้ บ๊อชอาจขอให้ผู้ซื้อต้องชำระต้นทุนและค่าใช้จ่ายตามสมควรสำหรับการใช้สิทธิใด ๆ ของบ๊อชตามข้อ 6.4 พร้อมค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำหรับการบรรจุหีบห่อใหม่ เป็นต้น
6.5 หากผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์นำไปประกอบในผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อเป็นเจ้าของ ให้ถือว่าผลิตภัณฑ์ที่ประกอบนั้นเป็นทรัพย์สินของบ๊อช หากผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์นำมาประกอบในผลิตภัณฑ์ที่ผู้อื่น ที่มิใช่ผู้ซื้อ เป็นเจ้าของ ให้บ๊อชมีกรรมสิทธิ์ร่วมกับบุคคลนั้นในผลิตภัณฑ์ที่ประกอบ และผู้ซื้อจะต้องให้บุคคลดังกล่าวยอมรับในเรื่องนี้ด้วย หากผลิตภัณฑ์ที่มีกรรมสิทธิ์เป็นส่วนที่นำไปติดตั้งอยู่กับอสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ของผู้ซื้อ หรือบุคคลอื่นใด ผู้ซื้อยอมรับ (และในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ได้เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่นำผลิตภัณฑ์ไปติดตั้งไว้ จะให้เจ้าของยอมรับ) และทำให้ผู้รับจำนองซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ยอมรับว่า แม้ว่าจะมีการประกอบแล้วก็ตาม ผลิตภัณฑ์นั้นยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของบ๊อชจนกว่ากรรมสิทธิ์ในผลิตภัณฑ์จะตกเป็นของผู้ซื้อ และให้สิทธิทั้งหมดของบ๊อชตามที่ระบุในข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ยังคงอยู่
7. ทรัพย์สินทางปัญญา
7.1 ทรัพย์สินทางปัญญาในผลิตภัณฑ์หรือบริการ (ซึ่งรวมถึง สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า การออกแบบเชิงอุตสาหกรรม และลิขสิทธิ์) หรือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการผลิตซึ่งผลิตภัณฑ์หรือบริการ และในเอกสารและวัสดุใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง ยังคงเป็นทรัพย์สินทั้งหมดเพียงผู้เดียวของบ๊อช หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช หรือผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิของบ๊อช ตลอดเวลา เว้นแต่บ๊อชจะตกลงเป็นประการอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร บ๊อชมีสิทธิในการฟ้องร้องผู้ซื้อสำหรับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
7.2 ผู้ซื้อจะต้องไม่ใช้เครื่องหมายการค้าใด ๆ ที่บ๊อช (หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช) เป็นเจ้าของหรืออนุญาตให้ใช้ หรือคำใด ๆ ที่มีลักษณะเหมือนอย่างมีนัยสำคัญ หรือที่คล้ายจนอาจทำให้เกิดการหลงผิด ในชื่อของบริษัท ชื่อทางธุรกิจ โดเมนเนมของอินเทอร์เน็ต หรือที่อยู่อีเมล
7.3 ผู้ซื้อจะต้องไม่ขอจดทะเบียนชื่อทางการค้า ชื่อทางธุรกิจ ชื่อบริษัท หรือโดเมนเนมของอินเทอร์เน็ตที่มีเครื่องหมายการค้าใด ๆ ที่บ๊อช (หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช) เป็นเจ้าของหรืออนุญาตให้ใช้ หรือคำที่เหมือนอย่างมีนัยสำคัญ หรือที่คล้ายจนอาจทำให้เกิดการหลงผิด
7.4 ผู้ซื้อจะต้องไม่นำโลโก้ เครื่องหมาย หรือวัสดุสำหรับส่งเสิรมการจำหน่ายใด ๆ ที่บ๊อชเป็นเจ้าของหรืออนุญาตให้ใช้ ไปใช้ในวัสดุส่งเสริมการจำหน่ายใด ๆ โดยปราศจากความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบ๊อชก่อน
7.5 ผู้ซื้อจะต้องไม่ และจะรับประกันว่า เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง หรือตัวแทนของตน จะไม่:
(ก) ทำให้บ๊อช หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช หรือเครื่องหมาย หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ของบ๊อช หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช ได้รับความเสื่อมเสีย หรือ
(ข) กระทำการใด ๆ ที่ผู้ซื้อควรตระหนักถึงความเป็นไปได้ว่าจะทำให้ชื่อเสียงของบ๊อช หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช หรือเครื่องหมาย หรือผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ของบ๊อช ได้รับความเสียหาย
7.6 บ๊อชจะไม่รับผิดสำหรับการเรียกร้องอันเกิดจากการละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สามตามที่เกิดขึ้นจริงหรือตามที่กล่าวหา หากว่า:
(ก) การละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาตามที่เกิดขึ้นจริงหรือตามที่กล่าวหานั้นเกิดจากการใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่บ๊อชไม่ได้เป็นผู้จัดหา
(ข) นำผลิตภัณฑ์มาใช้ในลักษณะที่ไม่สามารถคาดหมายได้โดยบ๊อช เว้นแต่ (ในกรณีของสิทธิบัตร) สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างน้อยหนึ่งสิทธิจากสิทธิเหนือทรัพย์มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โดยสำนักงานสิทธิบัตรยุโรป หรือหนึ่งในประเทศเหล่านี้: สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร ออสเตรีย หรือสหรัฐอเมริกา
8. การรับประกันโดยชัดแจ้ง
8.1 บ๊อชขอรับประกันว่า ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จำหน่ายโดยบ๊อชไม่มีตำหนิหรือข้อบกพร่องที่สำคัญ (ยกเว้นในกรณีที่ข้อบกพร่องไม่สามารถหาพบเนื่องจากเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิค) และสอดคล้องตามข้อมูลจำเพาะตามที่บ๊อชได้ระบุไว้
8.2 แม้ว่าจะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใด ๆ ตามสภาพที่ระบุหรือตามตัวอย่าง บ๊อชไม่รับประกันว่า ผลิตภัณฑ์จะเป็นไปตามสภาพที่ระบุหรือตามตัวอย่างนั้น และผู้ซื้อจะต้องยอมรับ แม้ว่าบ๊อชจะได้แนะนำเรื่องการเปลี่ยนแปลงแบบหรือโครงสร้างในระหว่างวันที่เห็นสภาพตามที่ระบุ หรือตามตัวอย่าง
8.3 บ๊อชรับประกันความเหมาะสมสำหรับการใช้ประโยชน์ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด เฉพาะ:
(1) สำหรับผลิตภัณฑ์ที่บ๊อชได้จัดจำหน่าย และ
(2) หากว่าผู้ซื้อได้ระบุวัตถุประสงค์เฉพาะนั้นไว้โดยแจ้งชัดและเป็นลายลักษณ์อักษร และบ๊อชได้ยอมรับประกันความสามารถนำไปใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์นั้น
ระยะเวลา (และรายละเอียดอื่น ๆ) เกี่ยวกับการรับประกันตามที่อ้างถึงในข้อนี้จะต้องตกลงตามแต่ละประเภทของผลิตภัณฑ์
8.4 เว้นแต่บ๊อชจะตกลงเป็นประการอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร การรับประกันตามข้อ 8.1 ให้นำมาใช้บังคับตลอดระยะเวลารับประกันตามที่ระบุในเงื่อนไขการรับประกันที่มอบให้พร้อมผลิตภัณฑ์ และหากไม่มีการระบุระยะเวลารับประกันไว้ ให้มีระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยผู้ซื้อให้แก่ผู้ลูกค้า อย่างไรก็ตาม วันเริ่มรับประกันจะต้องไม่เกิน 12 เดือนหลังจากวันผลิตซึ่งผลิตภัณฑ์นั้น
8.5 การเรียกร้องตามการรับประกันที่กำหนดไว้ในข้อ 8 จะได้รับการพิจารณา เฉพาะหากว่าทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งถึงบ๊อชภายใน 7 วันนับจากเกิดเหตุแห่งการเรียกร้องนั้น การซ่อมหรือการเปลี่ยนจะไม่ทำให้ระยะเวลารับประกันขยายออกไปหรือมีการต่ออายุการรับประกัน
8.6 การรับประกันจะไม่นำมาใช้บังคับในกรณีดังต่อไปนี้:
(1) หากว่าข้อบกพร่องใด ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายนั้นเกิดจากการซ่อม การเปลี่ยน หรือการดัดแปลงที่กระทำโดยบุคคลที่สาม หรือในกรณีที่ชิ้นส่วนที่นำมาเปลี่ยนหรือซ่อมนั้น บ๊อชไม่ได้เป็นผู้ผลิต จำหน่าย หรือให้ความเห็นชอบ หรือหากว่าบ๊อชไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
(2) หากว่านำชิ้นส่วนที่บ๊อชไม่ได้ผลิต จำหน่าย หรือให้ความเห็นชอบนั้นมาใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ของบ๊อชโดยมิได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบ๊อชก่อน
(3) หากว่าข้อบกพร่องใด ๆ เกิดจากละเลยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการเก็บรักษา การดูแล การใช้งาน การบำรุงรักษา หรือการติดตั้ง (แล้วแต่กรณี) หรือเกิดจากการเก็บรักษา การดูแล การใช้งาน หรือการติดตั้งที่ขาดความเอาใจใส่หรือระมัดระวัง หรือเกิดจากอุบัติเหตุหรือการใช้ผิดวัตถุประสงค์สำหรับการออกแบบหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์นั้น
(4) หากมีการเปลี่ยนสภาพหรือคุณสมบัติสำหรับการใช้งานของผลิตภัณฑ์เนื่องจากสภาพอากาศหรือสภาพแวดล้อมอื่น ๆ การปนเปื้อน หรือการมีน้ำเข้าไป
(5) เมื่อการเปลี่ยนหรือซ่อมชิ้นส่วนเป็นส่วนหนึ่งของการบำรุงรักษาหรือการให้บริการตามปกติ และเป็นการสึกหรอจากการใช้งานตามปกติ หรือในกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะกับผิวที่เคลือบ ลงเงา หรือฉาบไว้
(6) หากว่าผลิตภัณฑ์ได้รับความเสียหายจากการใช้โดยต่อเนื่องต่อไป แม้หลังจากรู้แล้วว่ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้น หรือ
(7) หากเป็นความผิดที่เกิดจากข้อมูลจำเพาะหรือวัสดุที่ผู้ซื้อได้มอบให้แก่ฝ่ายวิเคราะห์สาเหตุของบ๊อช ซึ่งมีการระบุในคำแนะนำการใช้งานว่า “ชิ้นส่วนที่สึกหรอ” ให้ลูกค้ามีสิทธิเรียกร้องเฉพาะที่ไม่มีการสึกหรอตามธรรมชาติ
8.7 การรับประกันตามที่ตกลงในข้อ 8 ซึ่งรวมถึงรายละเอียดที่ตกลงสำหรับแต่ละประเภทของผลิตภัณฑ์ ให้ใช้แทนการรับประกันอื่น ๆ ทั้งหมดที่ระบุโดยแจ้งชัดหรือโดยนัย ความรับผิดชอบบ๊อชตามการรับประกันนี้จะเป็นไปตามข้อ 9 และข้อ 10 เท่านั้น
9. การรับผิดชดใช้และการไม่ต้องรับผิด
9.1 ภายใต้บังคับแห่งข้อ 8:
(ก) การรับประกัน เงื่อนไข ความรับผิด หรือคำรับรองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่าง ๆ เช่น คุณภาพ สภาพ ความสามารถจำหน่ายได้ หรือความเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่บ๊อชได้จำหน่ายหรือจัดหาให้ ซึ่งกฎหมายหรือกฎหมายจารีตอาจจะได้ระบุไว้เป็นประการอื่นโดยนัย จะไม่นำมาใช้บังคับและไม่นำมารวมไว้โดยแจ้งชัด
(ข) ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ และภายใต้บังคับแห่งข้อ 9 (ค) ความรับผิดทางแพ่งของบ๊อชต่อผู้ซื้อสำหรับหรือที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าโดยประการใด กับผลิตภัณฑ์ หรือบริการ หรือข้อมูล หรือคำแนะนำที่ได้มอบให้ จะจำกัดเฉพาะตามที่บ๊อชกำหนดไว้เท่านั้น คือ สำหรับกรณีของผลิตภัณฑ์ (หรือชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์) จะรับผิดเฉพาะการซ่อมหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ (หรือชิ้นส่วน) หรือการจัดหาผลิตภัณฑ์ (หรือชิ้นส่วน) ที่เท่าเทียม หรือการชำระค่าใช้จ่ายสำหรับการซ่อม หรือเปลี่ยน หรือจัดหาผลิตภัณฑ์ (หรือชิ้นส่วน) และสำหรับกรณีของบริการ จะรับผิดเฉพาะการให้บริการรอบใหม่ หรือชำระค่าใช้จ่ายสำหรับการให้บริการรอบใหม่
(ค) ตราบเท่าที่มีการละเมิดการรับประกันที่กำหนดไว้แจ้งชัดตามข้อ 8.1 บ๊อชจะซ่อมหรือเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ (หรือชิ้นส่วน) อื่นใดที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ แม้ว่าจะได้ดูแลเป็นอย่างดีก็ตาม
(ง) ยกเว้นตามที่บ๊อชอนุญาตหรือเห็นด้วย บ๊อชจะไม่ต้องรับผิดสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อม แก้ไข หรือเปลี่ยนที่เป็นผลสืบเนื่อง หรือสำหรับค่าใช้จ่ายโดยตรงหรือที่เป็นผลสืบเนื่อง การสูญเสีย หรือความเสียหาย การสูญเสียกำไร รายได้ การใช้ประโยชน์ สิ่งที่คาดหวัง หรือโอกาส รายจ่ายที่สูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ การผลิตที่สูญเสีย หรือการสูญเสียที่คล้ายกัน การสูญเสียข้อมูลหรือสารสนเทศ ค่าใช้จ่ายสำหรับบริหารจัดการภายในองค์กรของผู้ซื้อ หรือค่าใช้จ่ายสำหรับการสืบสวนสอบสวน (ตรวจสอบ) ที่กระทำการโดยผู้ซื้อ หรือที่ผู้ซื้อได้ก่อขึ้น ภายใต้หรือที่เกี่ยวข้องกับสัญญาจัดจำหน่าย ซึ่งรวมถึง อันเป็นผลจากความประมาทเลินเล่อของบ๊อช กรรมการ ลูกจ้าง หรือตัวแทนของบ๊อช
(จ) ผู้ซื้อปลดเปลื้องบ๊อช และไม่ทำให้บ๊อชต้องรับผิดสำหรับการฟ้องร้อง ค่าใช้จ่าย และการเรียกร้องทั้งหมด ที่เกิดขึ้น โดยตรงหรือโดยอ้อม จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่บ๊อชได้จัดหาให้แก่ผู้ซื้อ โดยไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด และ
(ฉ) ยกเว้นในกรณีที่ตกลงกันโดยประการอื่น และทำเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ซื้อ การเยียวยาที่ระบุตามหลักเกณฑ์นี้เป็นการเยียวยาผู้ซื้อเฉพาะในกรณีที่บ๊อชละเมิดการรับประกันเท่านั้น
10. การแจ้งความผิดพลาด
10.1 เว้นแต่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามข้อ 4.2 ผู้ซื้อจะต้องแจ้งให้บ๊อชทราบเมื่อผลิตภัณฑ์ที่จัดหาให้ตามสัญญาจัดจำหน่ายมีจำนวนไม่ครบ โดยจะต้องแจ้งภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับผลิตภัณฑ์นั้น หากไม่แจ้งให้บ๊อชทราบตามนั้น จะทำให้ผู้ซื้อเสียสิทธิใดๆ ที่อาจมีต่อบ๊อชสำหรับการจัดหาไม่ครบตามจำนวนนั้น
10.2 ผู้ซื้อ ภายใน 7 วันหลังจากได้มีการส่งมอบผลิตภัณฑ์แต่ละคราวแล้ว จะต้องแจ้งเป็นลายลักษณอักษรให้บ๊อชทราบโดยละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เป็นไปตามสัญญาจัดจำหน่าย นอกเหนือจากการส่งมอบไม่ครบจำนวนตามข้อ 10.1 หากไม่แจ้ง ให้ถือว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นไปตามสัญญาจัดจำหน่ายทุกประการ และผู้ซื้อจะต้องยอมรับและชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น
11. การบอกเลิกสัญญาจัดจำหน่าย
11.1 บ๊อชอาจบอกเลิกหรือพักสัญญาจัดจำหน่าย (โดยมีหรือไม่มีหนังสือแจ้งให้ทราบก่อนก็ได้ ตามที่บ๊อชเห็นสมควรตามดุลยพินิจของตนแต่ผู้เดียว) หากว่าผู้ซื้อละเมิด:
(ก) สัญญาจัดจำหน่าย หรือสัญญาจัดจำหน่ายอื่นใด หรือ
(ข) สัญญาอี่นใดที่ทำกับบ๊อช หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช หรือ
(ค) ในกรณีเกิดเหตุที่อาจนำไปสู่การผิดนัดตามข้อ 6.2 (ข) – (ง)
11.2 บ๊อช โดยไม่ต้องรับผิดต่อผู้ซื้อ และนอกเหนือจากสิทธิของบ๊อชตามข้อ 11.1 อาจบอกเลิกหรือพักสัญญาจัดจำหน่าย และคำสั่งที่ออกและยังมีผลบังคับโดยทันที หากว่าผู้ซื้อ หรือลูกจ้าง หรือผู้แทนของผู้ซื้อ กระทำการใด ๆ โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต ที่เป็นการฉ้อฉล หรือที่ขัดต่อกฎหมาย
12. การหักลบกลบหนี้
12.1 บ๊อชและผู้ซื้อตกลงว่า บัญชีระหว่างบ๊อชและผู้ซื้อคือบัญชีเดินสะพัด
12.2 ในกรณีที่บ๊อชจะต้องชำระเงินจำนวนใด ๆ ให้แก่ผู้ซื้อตามสัญญาที่ทำระหว่างกัน ซึ่งรวมถึงเงินคืนหรือเงินส่วนลด
บ๊อชอาจหักลบกลบหนี้เงินจำนวนนั้นกับจำนวนเงินที่ผู้ซื้อเป็นหนี้บ๊อช หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบ๊อช และจะทำเช่นนั้นต่อไป จนกว่าจะมีการชำระให้แก่บ๊อชทั้งหมดเต็มจำนวน
13. การรักษาความลับ
13.1 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมดที่ได้รับจากบ๊อช (ซึ่งรวมถึงลักษณะต่าง ๆ ที่อนุมานหรือสรุปได้จากสินค้าหรือซอฟต์แวร์ที่มีการส่งมอบหรือจากความรู้หรือประสบการณ์อื่น ๆ) จะต้องเก็บรักษาเป็นความลับ ไม่ให้บุคคลที่สามได้รับรู้ หากว่าและตราบเท่าที่ข้อมูลนั้นไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่สาธารณชนได้รับทราบแล้ว หรือที่เรากำหนดให้ผู้ซื้อจำหน่ายต่อ และอาจให้บุคคลเหล่านั้นทราบเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของผู้ซื้อเอง และบุคคลเหล่านั้นจำเป็นต้องใช้ข้อมูลนั้นและให้คำมั่นว่าจะเก็บรักษาเป็นความลับ ข้อมูลเหล่านั้นยังคงเป็นทรัพย์สินของบ๊อช หากว่าไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบ๊อชก่อน ห้ามมิให้ทำสำเนาหรือคู่ฉบับ หรือนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เมื่อบ๊อชร้องขอ ข้อมูลทั้งหมดที่มาจากบ๊อช (ซึ่งรวมถึง หากมี สำเนาหรือคู่ฉบับใด ๆ ที่ได้ทำขึ้น) และสินค้าที่ให้ยืมใช้ จะต้องส่งมอบคืนให้แก่บ๊อชโดยทันทีทั้งหมด หรือจะต้องทำลายทิ้ง
13.2 เราขอสงวนสิทธิทั้งหมดในข้อมูลตามที่ระบุไว้ในข้อ 13.1 ข้างต้น (ซึ่งรวมถึงลิขสิทธิ์ และสิทธิในการขอสิทธิในทรัพย์สินเชิงอุตสาหกรรม เช่น สิทธิบัตร สิทธิในผลิตภณฑ์อรรถประโยชน์ สิทธิคุ้มครองอุปกรณ์หรือสารกึ่งตัวนำ (semiconductor) เป็นต้น)
14. ข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไป
14.1 ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้อาจแก้ไขตามข้อตกลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างผู้ซื้อและบ๊อช อย่างไรก็ตาม ข้อนี้จะไม่เป็นการจำกัดมิให้บ๊อชสามารถแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดและเงื่อนไข ณ เวลาใด ๆ โดยไม่ต้องบอกกล่าว ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งซื้อที่ผู้จำหน่ายได้วางในอนาคต
14.2 ข้อกำหนดใด ๆ ของหลักเกณฑ์นี้นำมาระบุไว้ เฉพาะเท่าที่เห็นว่าจำเป็นเพื่อป้องกันมิให้ข้อกำหนดนั้นหรือหลักเกณฑ์เหล่านี้ขาดความสมบูรณ์ เป็นโมฆะ หรือไม่สามารถใช้บังคับได้ ในสถานการณ์ต่าง ๆ
14.3 ผู้ซื้อจะต้องไม่โอนสิทธิหรือทำสัญญาเพื่อโอนสิทธิหรือข้อผูกพันของตนตามสัญญาจัดจำหน่าย ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยปราศจากความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบ๊อชก่อน
15. กฎหมายที่ใช้บังคับและเขตอำนาจศาล
15.1 สัญญาจัดจำหน่ายนี้ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย แต่ละฝ่าย โดยมิอาจเพิกถอนได้ และโดยปราศจากเงื่อนไข จะต้องนำข้อพิพาทขึ้นสู่ศาลไทยที่มีอำนาจเพื่อพิจารณาพิพากษาเท่านั้น
15.2 อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยสัญญาซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ (United Nations Convention on Contracts for International Sale of Goods) จะไม่นำมาบังคับใช้กับสัญญาจัดจำหน่าย
16. หัวข้อ
หัวข้อตามหลักเกณฑ์นี้มีไว้เพื่อสะดวกสำหรับการอ้างอิงเท่านั้น และจะไม่นำมาเพื่อตีความหรือจะไม่มีผลต่อการตีความหลักเกณฑ์แต่อย่างใด